วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ดอกรัก...



ดอกรักล้อลมเล่น เริงร่า
ดอกรักผลิงามตา สดใส
ดอกรักย้อหลอกคน ให้จนใจ
ดอกรักไหนหรือ ฤาดอกลวง



เจ้าแต่งแต้มสีสัน ให้ชีวิต
เจ้าเปิดดอกเพียงนิด จิตสดใส
เจ้าแย้มบานหนึ่งดอก ดุจหัวใจ
ชวนข้าให้ใจสว่าง ตามเจ้าเอย



ละลานตามาเป็นกลุ่ม ชูช่อ
นวลละออหยอกเย้า ภมรผึ้ง
ชวนให้หลงตรึงใจ ใฝ่คะนึง
ให้คิดถึงใฝ่ฝัน แต่ช่อนาง



บางดอกเดี่ยวไม่เปลี่ยวใจ ฤาไร้คู่
เพียงแย้มบานเช้าตรู่ ก็สดใส
ชวนเมฆหมอกมาลอง หยดลงไป
ระเริงเล่นเย็นใจ เคล้ากลีบงาม




วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทางที่ไร้ทาง ...



ไขว่คว้าหา จุดหมาย ที่ไกลโพ้น
จึงโชกโชน บนทาง บาทวิถี
ไร้จุดหมาย ย่อมไร้ ทางไม่มี
เพราะถึงที่ ฉับพลัน ไม่คั่นทาง



ทางมีไว้ ให้คน หาจุดหมาย
คนที่ไร้ จุดหมาย ทางไร้ค่า
อีกคนถึง จุดหมาย ทางไม่มา
สองคนคล้าย ไม่ค้นหา ทางเหมือนกัน



คนลุ่มหลง ย่อมไร้ ซึ่งจุดหมาย
ไร้หนทาง เดินไป สู่ข้างหน้า
วนเวียนอยู่ จมปลัก ไม่นำพา
ด้วยไร้ค่า ไร้ทาง ให้ก้าวไป



ผู้ถึงแล้ว ยังปลายทาง ณ จุดหมาย
ทางย่อมไร้ ประโยชน์ใด ให้คว้าหา
ผู้ใดไป ไม่ถึงยัง ฝั่งมรรคา
ยังค้นหา "เส้นทาง" อยู่ร่ำไป



วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทะเลฝัน ...



ฝากฝัน ผ่านทะเล มาเห่กล่อม
ให้น้องนอน หลับสบาย ในความฝัน
ฝากทะเล ไว้ให้น้อง จดจำกัน
เจอในฝัน ฉันกะเธอ เที่ยวทะเล




จับทะเล เทลงหม้อ ไว้รอต้ม
ปลาตากลม ปะการัง ทั้งกุ้งหอย
น้ำทะเล เดือดปุดๆ น้องนั่งคอย
ตาละห้อย หอมกลิ่น ต้มทะเล




วาดสีสัน สดใส ให้ทะเล
โอ้ละเห่ กล่อมน้อง เจ้าจอมขวัญ
ทั้งฟ้าเขียว แสดแดง อวดแข่งกัน
แต้มสีสัน สรรพชีวิต แห่งทะเล 




ฝากทะเล เห่กล่อม นอนหลับฝัน
คิดถึงกัน ก่อนหลับ อย่าห่างหาย
ทะเลลึก แปรปรวน ยากทำนาย
ฝากทิ้งท้าย เพียงในฝัน นั่นทะเล



บุปผาเริงระบำ ...



ระบายฟ้า มาทาสี เป็นสีพื้น
ลูบพระจันทร์ กลางคืน เป็นสีแสง
อาบอาทิตย์ แต้มดอก สีออกแดง
มาแต่งแต้ม สีสัน ภาพผืนงาม




เก็บกรวดทราย ระบายสี บนปีกน้อย
เก็บหิ่งห้อย แต่งแต้มสี บนผีเสื้อ
เก็บดวงดาว พราวแสง เป็นสีเจือ
กระพริบรับ ปีกผีเสื้อ โบยบินไป




โปรยดาวโรย ลงดาษดื่น ให้ตื่นเต้น
ส่องแสงเย็น ดุจสายรุ้ง ช่างสดใส 
กระพริบพับ วับวาว เหลืองอำไพ
สุขสดใส ใจสว่าง กระจ่างจิณ




โปรยดอกไม้ ระบายทุ่ง ยามรุ่งสาง
หยดเพชรงาม วางแซม แสนสดใส
ประกายเพชร ประกายดอก ตัดกันไป
ช่างวิไล เลอค่า หาเทียบทัน



วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นิทานดาว ...



เก็บดาวมาดื่ม ลืมเศร้า
อาบแสง เงินพราว พร่างฟ้า
เป่าโปรย เหล่าดวง ดารา
กลืนเก็บ สุริยา ก่อนสิ่งใด



หนุนนอน หมอนเมฆ เมฆา
เกลือกกลิ้ง เวลา เหินหาว
โฉบไป ไขว่ฟ้า คว้าดาว
ชมหมู่ ชนชาว จักรวาล



จับแกะ ปั้นเป็น เมฆน้อย
เหินลอย ท่องสู่ เวหา
จับหอย ลอยน้ำ เป็นดารา
จับกุ้ง ปูปลา เป็นเครื่องบิน



นิทาน ดวงดาว จบแล้ว
เจ้าแก้ว จงตื่น จากฝัน
เบิกเนตร รับแสง สุริยัน
ข้ามฝัน ยืนอยู่ บนความจริง





วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เหมันต์รำพัน



เหมันต์รันจวญ ชวนใจเศร้า
ลมหนาวพัดผ่าน โลมขน
สะท้านซ่านใน อกตรม
ระทมแล้วเอย เหมันต์



ฟากฟ้าพารัก ลอยล่อง
เมียงมอง ไร้เงาเจ้าหนา
ลมรัก ลมลวง นำพา
โอ้อย่า หลอนรักเลยเหมันต์



พริ้วไผ่ ใบลอย หลุดร่วง
หนาวทรวง ไม่เท่า หนาวรัก
ลมเอ๋ย พาใจ ให้หนัก
หรือรักแล้วลวง ข้าเอย? 



รักเอย ...



หากยังไม่เคยทุกข์เพราะรัก
อย่าเพิ่งคิดว่ามี "รักแท้"




ไม่มีึความผิดบาปใน "ความรัก"
เพราะความผิดบาปอยู่ในการตัดสิน


ความรักนั้นงดงามและบอบบาง
แม้ได้่ครอง ต้องรู้จักถนอม


รักที่ไม่หวังครอบครอง
คือรักที่ทานทน!